เกี่ยวกับเรา
แชร์
บริษัทฯ ได้นำระบบควบคุมดูแลคุณภาพการผลิตและผลิตภัณฑ์ (Quality Assurance) มาใช้ทั่วทั้งองค์กร
เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการคัดสรรวัตถุดิบ และการผลิต รวมถึงการบริหารจัดการก่อนจัดส่งผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า
เพื่อสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสูงสุด
บริษัทฯ เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตไบโอดีเซล แบบอัตโนมัติต่อเนื่อง (Continuous Process) เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมทั้งในแง่กระบวนการผลิตและการลงทุน โดยมีหน่วยปรับปรุงคุณภาพของน้ำมันปาล์มดิบ (Pretreatment) เพื่อคัดแยกกรดไขมันปาล์ม (PFAD) และสิ่งปนเปื้อนออกจากน้ำมันปาล์มดิบ แล้วนำน้ำมันที่ผ่านการทำให้บริสุทธิ์แล้วเข้าสู่กระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น (Transesterification) นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานเปลี่ยนกรดไขมันให้เป็นไบโอดีเซล ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลผลิต (Yield) และคุณภาพของไบโอดีเซลสูงที่สุด
-
1ใช้พลังงานและสารเคมี
ในกระบวนการผลิตน้อย -
2ได้ผลผลิตไบโอดีเซลสูงถึง 99.5%
(Yield) เมื่อเทียบกับน้ำมันปาล์มดิบ -
3คุณภาพผลิตภัณฑ์
มีความต่อเนื่องสม่ำเสมอ -
4สามารถเลือกวัตถุดิบสำหรับ
กระบวนการผลิตได้หลากหลาย
รวมถึงน้ำมันที่มีกรดไขมันอิสระสูง
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อบริหารต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้
เป็นที่ยอมรับของตลาด และยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย
แชร์
การผลิต จึงได้ออกแบบให้มีการจัดการกากของเสียและสิ่งปฏิกูลที่เหลือตกค้างมาผ่านเทคโนโลยีที่เราคัดสรร ให้สามารถ
นำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
บริษัทฯ เลือกใช้เทคโนโลยีการผลิตไบโอดีเซลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถจัดการหมุนเวียนน้ำจากกระบวนการผลิตให้นำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อลดปริมาณน้ำทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด โดยปัจจุบันมีน้ำเสียจากกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นน้ำเสียที่ไม่มีการปนเปื้อนของโลหะหนัก (ค่า COD) อยู่ระหว่าง 7,000 – 8,000 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเกิดจากอินทรียสารของน้ำมันปาล์ม และกลีเซอรีน ที่หลุดลอดจากกระบวนการผลิต
ทั้งนี้ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร เช่น น้ำและสารเคมีที่เกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิต ทาง
บริษัทฯ จึงได้ออกแบบและก่อสร้างระบบจัดการน้ำด้วยบึงประดิษฐ์ โดยอาศัยธรรมชาติในการบำบัดน้ำและการระเหย เพื่อให้เป็นโรงงานไบโอดีเซลแห่งแรกของประเทศ ที่มีระบบการจัดการน้ำแบบไม่ปล่อยของเสียออกสู่ภายนอก (Zero Discharge) เพื่อดูแลและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด
บริษัทฯ ได้เลือกติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียถึง 4 กระบวนการ
เพื่อดูแลคุณภาพและมาตรฐานของการบำบัดน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย
-
1กระบวนการทางกายภาพ (Physical Treatment Process)
- Scum Skimmer -
2กระบวนการทางเคมี (Chemical Treatment Process)
-
3กระบวนการทางชีววิทยา (Biological Treatment Process)
- Anaerobic Treatment
- Aerobic Treatment -
4กระบวนการทางฟิสิกส์ - เคมี (Physical - Chemical Process)
- Carbon Filter
น้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบบำบัดน้ำเสียหลักของโครงการ ส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าระบบ Reverse Osmosis ที่บริษัทฯ ได้ลงทุนเพื่อนำน้ำกลับไปใช้ทดแทนน้ำในเครื่องผลิตไอน้ำ (Boiler) และน้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบบำบัดน้ำเสียอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำเข้าถัง Clarify เพื่อใช้เป็นน้ำทดแทนในระบบหล่อเย็น (Cooling Tower) และยังใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดจากระบบบำบัดน้ำเสียแล้ว มาใช้หมุนเวียนภายในกิจกรรมของบริษัทฯ เช่น รดน้ำต้นไม้ หรือทำความสะอาด ทำให้ไม่มีการปล่อยน้ำจากกระบวนการผลิตออกสู่สิ่งแวดล้อม
มลพิษทางอากาศและเสียง (Air Pollution & Noise)
ด้วยกระบวนการผลิตไบโอดีเซลที่ทางบริษัทฯ เลือกใช้ เป็นกระบวนการผลิตแบบระบบปิด และมีหอกลั่นคอยดึงเอาเมทานอลที่เหลือจากการทำปฏิกิริยาในขั้นตอนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ ทำให้ไม่มีอากาศปนเปื้อนไอระเหยของสารเคมีออกสู่บรรยากาศ รวมทั้งทางบริษัทฯ ได้เลือกใช้เชื้อเพลิงที่สะอาด เช่น NA หรือน้ำมันเตากำมะถันต่ำใน Boiler ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงไม่มีความจำเป็นต้องมีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ
ระบบดูแลคุณภาพความดังของเสียง
ปัจจุบันระดับความดังเฉลี่ยของการผลิตอยู่ที่ 60 dB ซึ่งไม่เกินกว่ามาตรฐานที่ควบคุม จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีระบบจัดการเป็นพิเศษ
แต่เพื่อเป็นการเฝ้าระวัง ทางบริษัทฯ ได้จัดให้มีการตรวจวัดสภาพสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ทั้งในและรอบบริเวณโรงงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าระวังด้านคุณภาพของระบบอากาศและเสียงในชุมชนรอบโรงกลั่น
เนื่องจากบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในด้านการผลิตพลังงานทดแทนจากพืชน้ำมัน
ซึ่งวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากกระบวนการผลิตส่วนใหญ่ สามารถนำไปเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอื่นได้
เช่น กากตะกอนบ่อบำบัด และดินฟอกสี ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้เป็นอย่างดี